Free shipping & return for all orders

ฟื้นฟูตัวเองยังไงหลังจากออกกำลังกายมาอย่างหนักหน่วง จะได้มีแรงสู้กับวันต่อไปได้อย่างมีพลัง!

มีนาคม 11, 2021

ฟื้นฟูตัวเองยังไงหลังจากออกกำลังกายมาอย่างหนักหน่วง จะได้มีแรงสู้กับวันต่อไปได้อย่างมีพลัง!

นอกจากการออกกำลังกายจะช่วยทำให้เราแข็งแรงได้แล้ว อีกส่วนหนึ่งเราก็ยังได้ประโยชน์อีกมากมายจากการออกกำลังกายเช่น การลดน้ำหนัก และเพื่อฟิตหุ่นให้เฟิร์มขึ้น ดังนั้น การออกกำลังกายจึงเรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันของพวกเราไปแล้วก็ว่าได้ ดังนั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะเกิดอาการเหนื่อยล้าหรืออาการอักเสบตามมาได้ งั้นเราไปดูกันว่า เราจะทำยังไงเพื่อช่วยเซฟร่างกายตัวเองจากการออกกำลังกายมาอย่างเหน็ดเหนื่อย เพื่อให้การออกกำลังกายไม่ส่งผลเสียมากกว่าผลดีต่อเรานั่นเอง

 

1. คูลดาวน์หลังออกกำลังกายใหม่ๆ เสมอ
หลายๆ คนอาจจะมองว่าสิ่งๆ นี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้จำเป็นอะไรเลย แถมมองว่าเป็นความยากลำบากอีกต่างหาก ซึ่งต่อไปนี่ลบความคิดนี้ออกไปให้ไว เพราะหลังจากที่เราออกกำลังมาแบบเหน็ดเหนื่อย ก็ไม่ควรที่จะหยุดออกกำลังกายไปดื้อๆ ทันที เพราะการที่หยุดไปทันทีไปเลยอาจทำให้เรามีอาการเป็นลมหรือรู้สึกหน้ามืดได้ อีกทั้งกล้ามเนื้อยังหดตัวทันที ส่งผลให้เกิดเลือดคลั่งตามส่วนต่างๆ ภายในร่างกายจำนวนมากและอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ด้วย ดังนั้น หันมาใช้เวลาสัก 5 นาทีเพื่อหาให้เวลาร่างกายได้ทำการคูลดาวน์โดยอาจจะเดินบนลู่วิ่งอย่างช้าๆ เพื่อให้ร่างกายเกิดการผ่อนคลายตัวเองลงนั่นเอง


2. ยืดกล้ามเนื้อ
หลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้วเราควรยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เพราะหลังจากออกกำลังกายเสร็จแน่นอนว่าก็ต้องมีกล้ามเนื้อบริเวณใดบริเวณหนึ่งบาดเจ็บหรือได้รับการอักเสบแน่นอน แต่ถ้าหากว่าในบริเวณนั้นมีอาการปวดบวมกล้ามเนื้อหรือข้อต่อ เราก็ควรงดการยืดกล้ามเนื้อในส่วนนั้น ไม่เช่นนั้น อาจจะทำให้อาการอักเสบและปวดหนักขึ้นได้

 


3. ทานอาหารดีๆ ฟื้นฟูตัวเอง
หลังจากออกกำลังกายมาแล้วก็จะต้องทานอาหารดีๆ เพื่อเสริมสร้างและฟื้นฟูตัวเอง จึงต้องเลือกทานคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนเพื่อช่วยฟื้นฟู แต่ควรจะทานหลังจากออกกำลังกายไปแล้วไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายสามารถไปเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรงได้

 


4. ดื่มน้ำทนแทนน้ำที่เสียไป
เมื่อตอนที่เราออกกำลังกาย เราได้สูญเสียน้ำในร่างกายไปเยอะมากๆ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่เราควรจะต้องดื่มน้ำทดแทนในระหว่างออกกำลังกาย และการดื่มน้ำก็ยังช่วยระตุ้นระบบการเผาผลาญและลำเลียงอาหารตามร่างกาย รวมถึงช่วยกระตุ้นระบบการทำงานของร่างกายให้ดีขึ้นอีกด้วย

 


5. การยืดเส้นยืดสาย
การยืดเส้นยืดสายในที่นี้จะช่วยทำให้เอ็นข้อต่อและเส้นใยกล้ามเนื้อได้รับการยืดเหยียด ช่วยป้องกันการฉีกขาดของเส้นใยกล้ามเนื้อ จึงช่วยลดทอนอาการบาดเจ็บลงได้ด้วย แต่ถ้าจะให้ดีควรจะเป็นคนอื่นมาช่วยทำให้ อย่างเช่น
โค้ช เทรนเนอร์ หรือนักกีฬา เพราะถ้าใช้แรงไม่เหมาะสม โดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะทำให้กล้ามเนื้อได้รับการบาดเจ็บได้นั่นเอง โดยเราควรจะทำประมาณ 10 - 12 นาทีต่อวัน รับรองว่าฟินแน่นอน

 


6.
กินโปรตีนก่อนนอน
หากใครไม่เคยรู้มาก่อนต้องลอง เพราะช่วงเวลานอนหลับ เป็นช่วงที่ร่างกายของเราจะฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้ดีที่สุด ดังนั้น พวกเราจึงควรกินอาหารประเภทโปรตีนก่อนนอน โดยโปรตีนจะช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่ได้รับความเสียหายได้เร็วขึ้นมากถึง 22% และตามด้วยนมอีกสักแก้วก็หลับสบายยันเช้ากันอย่างแน่นอน  

 


7.
อาบน้ำร้อนสลับเย็น
เพราะการอาบน้ำร้อนสลับเย็นจะช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้ดีมากขึ้นหลังจากออกกำลังกายมาอย่างเหน็ดเหนื่อย โดยให้ทำการอาบน้ำเย็น 1 นาที และต่อด้วยน้ำอุ่นอีกสัก 3 นาที ทำแบบนี้สลับไปมาสัก 4 รอบ เพราะน้ำอุ่นจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ในขณะที่น้ำเย็นจะช่วยลดการอักเสบได้



8. นอนพักผ่อน

และสิ่งสุดท้ายที่จะลืมไม่ได้เด็ดขาดก็คือ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะต่อให้ออกกำลังกายหรือดูแลตัวเองดีขนาดไหน แต่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอก็จบเลย เพราะการนอนหลับอย่างเพียงพอนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องการมีสุขภาพที่ดี และสำคัญมากสำหรับนักวิ่งที่กำลังฟื้นฟูร่างกายหลังการวิ่งอย่างหนัก เพื่อฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนต่างๆ ในช่วงตอรที่เราหลับนั่นเอง ดังนั้น ต้องนอนอย่างน้อย
8 ชั่วโมงในตอนกลางคืน และถ้าหากยังรู้สึกเหนื่อยมากอาจจะงีบสั้นๆ ระหว่างวันหรือเข้านอนให้เร็วขึ้นก็ได้



9. ใส่รองเท้า OOFOS
ทำไมต้องเป็นแบรนด์นี้ นั่นก็เป็นเพราะว่า รองเท้ากีฬาและรองเท้าวิ่งถือเป็นไอเท็มสำคัญที่จะช่วยทำให้การวิ่งหรือการออกกำลังกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และรองเท้า OOFOS ก็จะช่วยเติมเต็มความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายให้ฟื้นฟูอย่างรวดเร็วระหว่างช่วงที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ด้วยการที่เราใช้เทคโนโลยีที่ช่วยซึมซับเเละรองรับเเรง กระแทกในช่วงพักฟื้นหลังออกกำลังกายได้เป็นอย่างดีมากกว่ารองเท้าทั่วไปถึง 37% จนได้รับการรับรองจากสถาบันการเเพทย์ในอเมริกาเกี่ยวกับการรักษาเท้าเเละข้อเท้า ทำให้กลายเป็นรองเท้าสำหรับออกกำลังกายที่จะมาตอบโจทย์คนออกกำลังกายได้เป็นอย่างดีโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเหมือนเคย แถมยังมีแรงเหลือในการออกกำลังกายในวันต่อไปได้อย่างมีพลัง


" เพราะการออกกำลังกายถือเป็นเรื่องที่พวกเราควรให้ความสำคัญกันเป็นอย่างแรกหากตัดเรื่องของการทานอาหารที่ดีและนอนหลับพักผ่อนเพียงพอออกไป และต่อไปนี้สิ่งที่พวกเราจะต้องหันมาให้ความสำคัญเพิ่มก็คือการดูแลตัวเองหลังจากออกกำลังกายมาอย่างหนักหน่วง เพื่อให้การออกกำลังกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่เกิดอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังตามมาอีกด้วย "




เขียนข้อความ Leave a comment

ความคิดเห็นจะถูกอนุมัติก่อนแสดง Comments will be approved before showing up.

ตารางไซส์ Size Guide