No Pain No Gain...สำนวณภาษาอังกฤษที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
แน่นอนที่สุดว่าการจะได้สิ่งที่มีคุณค่ามา จะต้องเเลกด้วยอะไรสักอย่าง ซึ่งถ้าจะกล่าวสำนวณนี้ให้สอดคล้องกับการออกกำลังกายก็คงใช้ได้ดีทีเดียว เพื่อสุขภาพที่ดีไม่ได้หาซื้อได้ตามท้องตลาด มันต้องเเลกมาด้วยหยาดเหงื่อเเละความทรมาน แต่ผลของมันจะทำให้คุณเปลี่ยนเเปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
ทุกวันนี้รูปแบบการออกกำลังกายมีมากมายเหลือเกิน ทั้งวิ่ง ยกเวท ทาบาทา โยคะ แอโรบิค...คุณคงไม่สามารถทำได้ครบทุกประเภทอย่างแน่นอน และขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณว่าต้องการอะไรจากการตัดสินใจที่จะเริ่มเสียเหงื่อเเละทรมานร่างกายทั้งที ดังนั้นเราจึงขอแบ่งประเภทการออกกำลังกายเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือการทำคาดิโอ(CARDIO TRAINING) หรือการเน้นเรื่องอัตราการเต้นของหัวใจ และการยกเวต(WEIGHT LIFTING) หรือการออกกำลังเพื่อสร้างกล้ามเนื้อนั่นเอง คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ผู้คนทั้งหลายหันออกมาออกกำลังกายขยับแข้งขยับขากันเพื่ออะไร ถ้าไม่นับเรื่องสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นอันเป็นผลพลอยได้อยู่แล้ว นอกเสียจากอยากมีหุ่นที่ดีขึ้น พุงที่น้อยลง และบุคลิกภาพที่ดีขึ้นตามมาแล้วเราจะเลือกการออกกำลังกายแบบไหนถึงจะลดพุงได้ดีกว่า เรามาลองดูข้อมูลคร่าวๆของแต่ละประเภทกัน
เป็นการเน้นการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับที่สูง 60-80% ของจุดที่คุณเหนื่อยที่สุดอย่างต่อเนื่อง และค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร 40-60 นาที การเผาผลาญในระหว่างที่ทำคาดิโอถือว่าจะสูงมากเมื่อเทียบกับการออกกำลังแบบอื่น และก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งน้ำหนักตัว อัตราการเต้นของหัวใจ และระยะเวลาที่ใช้ การวิ่งก็ถือเป็นหนึ่งในการออกกำลังเเบบคาดิโอที่เป็นที่นิยม หากยกตัวอย่าง
ผู้อ่านอาจมองว่าทำไมต้องพูดถึงการยกเวตอีก ในเมื่อการทำคาดิโอก็เผาผลาญพลังงานได้เยอะอยู่แล้ว คงไม่ต้องทำอย่างอื่นเพิ่มเติม แต่จริงๆเเล้วมันมีอะไรมากกว่านั้น บางคนอาจไม่ปลื้มเรื่องการยกเวทเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากติดภาพลักษณ์ กลัวว่ายกเวตเเล้วกล้ามจะใหญ่กล้ามปูเกินไปและดูน่ากลัวเกินกว่าจะดูดี แต่ในความเป็นจริงเเล้วมันไม่ง่ายเลยที่กล้ามเนื้อในเเต่ละเซลล์จะถูกสร้างขึ้นมา นักกีฬาเพาะกายหลายคนใช้เวลาเป็นสิบๆปี เเละต้องมีปัจจัยหลายๆอย่างด้วยกัน ก่อนจะถึงจุดนั้น
การยกเวต เป็นการทำให้กล้ามเนื้อได้ออกเเรงต้าน เพิ่มความเเข็งเเรงทนทานของกล้ามเนื้อ วิธีการและประเภทจะมีมากมายหลายประเภทแยกย่อยออกไป หากแต่อัตราการเผาผลาญพลังงานในช่วงเวลาที่กำลังยกเวต จะต่ำกว่าการทำคาดิโอ ยกตัวอย่าง
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การคาดิโอและการยกเวต ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้หากต้องการผลลัพธ์ในการลดไขมัน การสลับรูปแบบการออกกำลังกายสามารถทำได้หลายรูปแบบ สามารถเลือกวันในการยกเวตหรือคาร์ดิโอได้ตามความสะดวก แต่ต้องมีความอดทนและสม่ำเสมอ เพราะผลลัพธ์มันช่างน่าตื่นเต้นเเละหอมหวาน แต่ต้องเเลกมาด้วยความมานะพยายามที่อาศัยเวลาและจิตใจที่แข็งเเกร่ง
***จริงๆและร่างกายคนเรามีการจดจำขีดความสามารถของตนเองอยู่ตลอด ในแต่ละช่วงจำเป็นต้องมีการเพิ่มระดับความยากของการฝึกเข้าไป ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน การฝึกในแต่ละเเบบข้างต้น พยายามเลือกที่จะฝึกประเภทเดียวไปเลยในวันนั้นจะดีที่สุด หากแต่ทุกคนย่อมมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา ก็สามารถฝึกเเบบผสมผสานกันได้ในวันหนึ่งๆ ต้องลองปรับตารางการฝึกให้เหมาะสมกับตารางการใช้ชีวิตของเรามากที่สุด
ว่าด้วยเรื่องการลดพุง อาหารเป็นปัจจัยหลักของการเปลี่ยนเเปลงของร่างกาย ซึ่งมีผลมากถึง 70% ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า "การรับพลังงานจากการกินที่มากกว่าอัตราการเผาผลาญ ถึงแม้จะออกกำลังกายอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็ไม่ทำให้ผอมได้" และการออกกำลังกายที่กล่าวไปข้างต้นคือเพียงแค่ 20% เท่านั้นแต่ก็ขาดไม่ได้เช่นกัน ส่วนอีก 10%สุดท้ายคือการพักผ่อนที่เพียงพอ จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมี REST DAY สัก 1 วันต่อสัปดาห์เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและซ่อมเเซมระบบต่างๆของร่างกาย และเเถม CHEAT DAY ให้อีก 1 วันต่อสัปดาห์ เพื่อบอกกับร่างกายว่าเราจะไม่ได้รับพลังงานเข้าร่างกายน้อยแบบนี้ไปทุกๆวัน เป็นการรักษาระดับ METABOLISM อีกทางหนึ่งด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก:
https://www.healthline.com
https://www.livestrong.com
https://www.verywellfit.com
ความคิดเห็นจะถูกอนุมัติก่อนแสดง Comments will be approved before showing up.